http://www.duangden.com
ถวายพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระราชาธิบดีและพระราชวงศ์ต่างประเทศ
 

ถวายพระกระยาหารค่ำ
แด่สมเด็จพระราชาธิบดีและพราชวงศ์ต่างประเทศ
ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง

วันอังคารที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙



***

วันอังคารที่ ๑๓ มิถุนายน เวลา ๑๙.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินในงานเลี้ยงถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่พระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสขอบพระทัยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ความว่า

“ฝ่าพระบาท หม่อมฉัน และราชินี มีความปีติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้รับรองพระประมุข พร้อมทั้งพระราชวงศ์ จากนานาราชอาณาจักร ในงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำในวันนี้ ขอขอบพระทัยทุกๆ พระองค์เป็นอย่างมากที่ทรงพระอุตสาหะเสด็จมาร่วมงานครั้งนี้ ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต หม่อมฉัน พร้อมทั้งรัฐบาล และประชาชนชาวไทย ถือว่า การเสด็จมาร่วมในงานครั้งนี้ เป็นศุภนิมิตแห่งไมตรีจิต มิตรภาพอันแท้จริง และมีความหมายสำคัญ อันควรจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ด้วยเหตุว่า เป็นครั้งแรกที่พระประมุข และพระราชวงศ์ จากราชอาณาจักรต่างๆ เสด็จมาประชุม ณ ราชอาณาจักรไทย โดยพร้อมเพรียงกัน สิ่งนั้นย่อมเป็นปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะเกื้อกูลให้สัมพันธภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างราชตระกูล และราชอาณาจักร ทั้งปวง ดำรงมั่นคง ทั้งเจริญงอกงามและแน่นแฟ้นยิ่งๆ ขึ้นไป

ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้า ขอเชิญชวนทุกๆ ท่านให้ร่วมกันกับข้าพเจ้า ดื่มถวายพระพรแด่พระประมุข และพระราชวงศ์ ผู้เสด็จมาจากแดนไกล ให้ทรงเกษมสำราญ และทรงเจริญพระชนม์ศิริสวัสดิ์ ทั้งในประชาชาติทุกราชอาณาจักร มีความวัฒนาผาสุกยิ่งยืนนานตลอดไป”

 

จากนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะทรงเป็นผู้แทนประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า

“ฝ่าพระบาท สมเด็จพระราชินี พระประมุขและพระราชวงศ์ ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย

ฝ่าพระบาท หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ มีความปีติชื่นชมและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาพร้อมเพรียงกันในวันนี้ด้วยเหตุผลสองประการ

ประการแรก หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ได้มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ ด้วยความปรารถนาเฉกเช่นเดียวกับประชาชนทุกคนในผืนแผ่นดินไทยอันทรงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าภาคภูมิใจ นั่นคือ เพื่อถวายพระพรแด่ฝ่าพระบาท และสมเด็จพระราชินี ผู้เป็นที่รักของพระองค์ด้วยความเคารพและชื่นชมในพระบารมีเป็นล้นพ้น ตลอดจนเพื่อมอบความปรารถนาดีอย่างจริงใจให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน

อย่างไรก็ดี สำหรับวโรกาสอันสำคัญยิ่งเช่นวันนี้ คงจักต้องมีสิ่งใดที่มากเกินกว่าเพียงการแสดงไมตรีจิตให้กัน ไม่ว่าไมตรีจิตนั้นจะอบอุ่นหรือจริงใจสักเพียงใด

ดังนั้น เหตุผลสำคัญประการที่สองที่สำคัญเยี่ยงกัน ที่เราต่างมาพร้อมเพียงกัน ณ ประเทศที่งดงามของฝ่าพระบาทในวันนี้ ก็เพื่อร่วมกันถวายพระเกียรติแด่ฝ่าพระบาท

ฝ่าพระบาท หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ มาร่วมพร้อมเพียงกันในวันนี้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและพระบารมีของฝ่าพระบาทผู้ทรงเป็นทั้งผู้นำ ผู้ให้แรงบันดาลใจ และองค์พระประมุขของประเทศผู้เป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกคน

ฝ่าพระบาททรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระเจริญอยู่ในสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ ระยะเวลาที่ฝ่าพระบาททรงครองสิริราชสมบัตินั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่จะถูกจารึกไว้เพื่อเป็นบันทึกทางวิชาการ อย่างไรก็ดี แน่นอนว่า เราทุกคน ณ ที่นี้ มิได้เดินทางมาเพียงเพื่อจะร่วมเฉลิมฉลองบทบันทึกเหล่านี้

เราทุกคนมาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ฝ่าพระบาท และเพื่อร่วมแสดงความปลาบปลื้มและชื่นชมในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาด้วยพระปรีชาสามารถอันเปี่ยมล้น

หกสิบปีที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ มิได้เป็นเพียงหกสิบปีในประวัติศาสตร์ของชาติไทย แต่เป็นหกสิบปีที่เป็นประวัติศาสตร์ของเราทุกคน เป็นประวัติศาสตร์ที่ได้ประสบทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ทั้งความปลื้มปีติและความโศกเศร้า ทั้งเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดี และเรื่องที่น่าสิ้นหวัง

ห้วงเวลาที่ผ่านมา ป็นห้วงที่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วและกว้างไกลมากที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ท้าทายการดำรงอยู่ของเราในทุกมิติ โดยเฉพาะความเป็นชาติอันธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย ในยามที่ถูกท้าทายเช่นนี้ สิ่งที่เราทุกคนเพรียกหาคือ การตัดสินใจที่ถูกต้องและเฉียบแหลม

ทุกครั้งฝ่าพระบาทได้ทรงใช้พระราชปรีชาญาณ พระสติปัญญา พระวิริยอุตสาหะ ตลอดจนความองอาจและกล้าหาญที่พระองค์ทรงมีอยู่อย่างท่วมท้น ในการนำประเทศให้พ้นภัย

ฝ่าพระบาทไม่เคยทรงอยู่ห่างไกลจากประชาชนของพระองค์ ไม่เคยทรงมีพระราชดำริให้ประชาชนเป็นเพียงผู้ฟังคำสั่งหรือบริวาร ในทางตรงกันข้าม ฝ่าพระบาททรงอยู่เคียงข้างพสกนิกรของพระองค์ และทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนชาวไทยตลอดมา

ฝ่าพระบาททรงทำให้ประชาชนชาวไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งในเอกลักษณ์และมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังได้ตระหนักด้วยว่า ประเทศไทยนั้นเป็นผืนแผ่นดินที่เป็นของชาวไทยทุกคนอย่างแท้จริง และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ฝ่าพระบาททรงทำให้ชาวไทยทุกคนมีความเชื่อมั่นในตนเอง

ทั้งหมดนี้เป็นการขยายผลมาจากแบบอย่างความสำเร็จของฝ่าพระบาทแทบทั้งสิ้น พระปรีชาสามารถของฝ่าพระบาท เป็นศูนย์รวมแห่งแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนของพระองค์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชาการ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การที่ทรงเป็นแบบอย่างที่เรียบง่ายของการเป็นพ่อผู้มีแต่ความรักและเสียสละเพื่อลูก

ณ วันนี้ ประชาคมโลกต่างตระหนักถึงความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงของฝ่าพระบาท หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ จึงมีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่องค์การสหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่ฝ่าพระบาท

ฝ่าพระบาท พระราชกรณียกิจและความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมาของฝ่าพระบาท ทำให้หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ต่างรู้ซึ้งตระหนักได้ดีว่า เหตุใดประชาชนของพระองค์จึงได้พร้อมใจกันน้อมเกล้าฯถวายพระราชสมัญญา “มหาราช”

แต่หม่อมฉัน ตลอดจนองค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงานในวันนี้ ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่ายแต่มีค่าและสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉันและทุกพระองค์ ณ ที่นี้ คือฝ่าพระบาททรงเป็น “มิตรที่รักและพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา”

ฝ่าพระบาททรงเป็นพลังบันดาลใจให้กับพวกเราเหล่าพระประมุขด้วยกัน และสิ่งนี้ คือเหตุสำคัญล้ำลึกของความพร้อมเพียงกันมาถวายพระเกียรติในครั้งนี้

หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ขอถวายพระพรฝ่าพระบาท และสมเด็จพระราชินี ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญพระชนม์สุขสิริสวัสดิ์พร้อมทุกประการ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชาติไทยมีความวัฒนาผาสุกยั่งยืนนานตลอดไป”

***

 
 
 
© Webpage Designed by thaicadet.org // Last Updated. Saturday 30 July, 2011 1:50 PM