***
เราเชื่อว่าชาวหลายท่าน คงเคยได้ยินคำกล่าวสั้นๆ จากภาพยนตร์โฆษณาที่ว่า พ่อมองเห็นเราเสมอ ทั้งนี้เพราะตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปกครองประเทศและปวงชนชาวไทยด้วยทศพิธราชธรรม พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรเหล่าพสกนิกรของพระองค์ผ่านสายพระเนตรอันกว้างไกล
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประจักษ์ว่า หนึ่งในภาพความประทับใจของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่าน คือ "ภาพทรงสะพายกล้อง" หรือภาพที่ทรงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเหตุการณ์ต่างๆ เพราะแทบทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ จะเห็นว่า พระองค์่ทรงบันทึกภาพเหล่านั้นไว้บนแผ่นฟิล์มและภาพยนตร์ส่วนพระองค์
ด้วยเหตุนี้ เราก็เลยอยากนำเรื่องราวจากหนังสือใกล้เบื้องพระยุคลบาท เขียนโดย... ลัดดา ซุบซิบ ซึ่งได้เล่าเรื่อง กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของพระเจ้าอยู่หัว มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
กล้องถ่ายรูปส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกล้องแรก คือ กล้องคอนแท็กซ์ทู ซึ่งผลิตจากประเทศเยอรมนี เป็นกล้องที่ในหลวงของเรา แรกครั้งยังทรงเป็นพระอนุชา ทรงวิ่งตามพระเชษฐา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และกล้องนี้เป็นกล้องเดียวกับที่ในหลวงทรงฉายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แรกครั้งยังทรงมีฐานันดรศักดิ์เป็น ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร ในวัน พระราชพิธีอภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓
ต่อมา ทรงเปลี่ยนไปใช้กล้องในตระกูล CANON EOS เริ่มที่ EOS 100 แล้วเปลี่ยนเป็น EOS 100F ที่มีน้ำหนักเพียง ๕๑๐ กรัม และต่อมา ทรงเปลี่ยนกล้องอีกหลายครั้งในทุกครั้งที่มีรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดตามลักษณะที่เหมาะสม โดยยังคงทรงกล้องในตระกูล CANON EOS เนื่องเพราะมีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพา ในหลวงทรงใช้เลนส์ตัวเดียวมาโดยตลอด ไม่เปลี่ยนเลย คือเลนส์ ๒๘-๑๐๕ มิลลิเมตร ในคราวเสด็จพระราชดำเนินไปถวายกฐินพระราชทานทางชลมารค เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๓ ทรงประทับเรือพระที่นั่ง นารายณ์ทรงสุบรรณ ล่องเลียบลำน้ำเจ้าพระยา คราวนั้นในหลวงทรงพกพากล้องเล็กพิเศษ เลนส์ คาร์ลไซด์ ทรงเหลือบพระพักตร์เพียงเล็กน้อย ไม่ต้องยกกล้องมาที่พระเนตรก็ทรงมีพระปรีชาสามารถกดชัตเตอร์ได้เลย
จากความสนพระทัยส่วนพระองค์ด้านการถ่ายภาพนี้เองค่ะ ทำให้ตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ กว่า ๖๐ ปี คนไทยจึงได้มีโอกาสชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพในโอกาสต่างๆ นอกจากนี้ ภาพส่วนพระองค์มิได้เป็นเพียงภาพบันทึกเหตุการณ์ที่ทรงทอดพระเนตรเท่านั้นนะคะ หากแต่ภาพถ่ายเหล่านี้ ยังเป็นอีกหนึ่งบทบันทึกที่ทรงใช้แก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของพสกนิกรของพระองค์ด้วย
ด้วยความสำคัญของภาพส่วนพระองค์เหล่านี้ รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีการดำเนิน โครงการอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือหอภาพยนตร์ส่วนพระองค์ เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับจากการสร้างหอภาพยนตร์ส่วนพระองค์นั้น นอกจากจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ของโลก ที่มีการอนุรักษ์ภาพยนตร์และภาพนิ่งของพระมหากษัตริย์แล้ว ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ก็จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการด้วยคะ
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับหอภาพยนตร์ส่วนพระองค์นี้ จะขอเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปค่ะ
***
|