พุทธทาสภิกขุเน้นให้มนุษย์ประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ในชีวิตนี้ แต่เดิมนั้นถือกันว่า "นิพพาน" เป็นจุดหมายที่บรรลุถึงได้ยาก จะสามารถเข้าถึงได้ก็แต่เฉพาะนักบวชที่สละโลกและบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายภพหลายชาติเท่านั้น แต่พุทธทาสภิกขุกลับเห็นว่า "นิพพาน" อันเป็นสภาพความพ้นทุกข์ทางใจนั้นเป็นสากล ถ้ามีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ไม่ว่าบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ก็สามารถเข้าถึงได้เช่นเดียวกัน และ "นิพพาน" ก็เป็นปัจจุบันธรรมที่สามารถเข้าถึงได้ในชีวิตนี้หรือแม้ในขณะปัจจุบัน (ที่นี่และเดี๋ยวนี้)
ในวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2549 ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบ
100 ปีแห่งชาตกาลของพุทธทาสภิกขุ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) นักปราชญ์ทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา
พุทธทาสภิกขุได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) 1 ว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลก
รัฐบาลไทยและประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างก็เตรียมการเพื่อเฉลิมฉลอง เนื่องในวาระครบรอบวันเกิด
100 ปีของท่านในปีนี้
พุทธทาสภิกขุ (พ.ศ.2449-2536) เป็นผู้นำพุทธศาสนาฝ่ายปฏิรูปของไทย ท่านได้ปฏิรูปพุทธศาสนาด้วยการลดทอนเรื่องราวแบบเทพนิยายในศาสนาลงให้เหลือน้อยที่สุด
และตีความคำสอนทางอภิปรัชญาให้อยู่ในรูปของจิตวิทยา หรือตีความให้อยู่ในรูปอุปมาอุปไมยที่ชี้ไปที่ตัวปัญญาหรือความพ้นทุกข์
(นิพพาน) เช่น ท่านอธิบาย "สวรรค์" (สุคติ) และ "นรก" (ทุคติ) ว่า เป็นเพียงอุปมาอุปไมยของความสุขและความทุกข์ในทางจิตใจ
นอกจากนี้ท่านยังได้ตีความสวรรค์ชั้นต่างๆ เช่น กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และภพภูมิที่ต่ำ เช่น นรก เปรต อสุรกาย ว่ามิได้หมายถึงรูปธรรมที่มีอยู่เหนือธรรมชาติ
แต่หมายถึงประสบการณ์ทางจิตใจของมนุษย์ ที่อาจเป็นความสุขเหมือนอยู่ในสวรรค์ชั้นต่างๆ
หรือความทุกข์ที่เหมือนกับตกนรกขุมต่างๆ นั้นได้
พุทธทาสภิกขุเน้นให้มนุษย์ประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ในชีวิตนี้
แต่เดิมนั้นถือกันว่า "นิพพาน" เป็นจุดหมายที่บรรลุถึงได้ยาก จะสามารถเข้าถึงได้ก็แต่เฉพาะนักบวชที่สละโลกและบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายภพหลายชาติเท่านั้น
แต่พุทธทาสภิกขุกลับเห็นว่า "นิพพาน" อันเป็นสภาพความพ้นทุกข์ทางใจนั้นเป็นสากล
ถ้ามีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ไม่ว่าบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ก็สามารถเข้าถึงได้เช่นเดียวกัน
และ "นิพพาน" ก็เป็นปัจจุบันธรรมที่สามารถเข้าถึงได้ในชีวิตนี้หรือแม้ในขณะปัจจุบัน
(ที่นี่และเดี๋ยวนี้)
พุทธทาสภิกขุและนักปฏิรูปพุทธศาสนารุ่นใหม่ให้เหตุผลว่า ความเชื่อทางอภิปรัชญาในรูปของ
"ลัทธิกรรมเก่า" นั้นเกิดจากอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ที่เข้ามาปะปน และบดบังคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าไว้
หรือเกิดจากการตีความของอรรถกถาจารย์รุ่นหลังที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์
พุทธศาสนาฝ่ายปฏิรูปจึงได้หันกลับไปหาพระไตรปิฎก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "พระสูตร"
(สุตตันตะปิฎก) และ "พระวินัย" (วินัยปิฎก) ว่าอยู่ในรูปของพระพุทธวัจนะ และเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า
การปฏิรูปคำสอนในพุทธศาสนาด้วยระบบ "เหตุผลนิยม" (Rationalism) ซึ่งริเริ่มขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ 4) และได้รับการสานต่อโดยพระภิกษุทั้งฝ่ายธรรมยุติและมหานิกายนั้น
มาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในงานของพุทธทาสภิกขุ พุทธทาสภิกขุไม่เพียงแต่วิพากษ์วิจารณ์ไสยศาสตร์ของชนชั้นล่างเท่านั้น
แต่ยังได้วิพากษ์วิจารณ์อภิปรัชญาแห่ง "ลัทธิกรรมเก่า" ของชนชั้นปกครองอีกด้วย
ทำให้ระบบเหตุผลนิยมครบถ้วยสมบูรณ์ในงานของท่าน นอกจากนี้พุทธทาสภิกขุยังได้เติมเต็มการปฏิรูปคำสอนพุทธศาสนาในอีกด้านหนึ่ง
ซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ของท่านเองโดยแท้ ด้วยการตีความพุทธศาสนาตรงไปยังสภาวะทางจิตใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตีความเรื่อง "ปฏิจจสมุปบาท" อันโดดเด่นของท่าน ซึ่งท่านเน้นวงจรทั้งฝ่ายเกิดทุกข์และฝ่ายดับทุกข์
ว่าเป็นเรื่องสภาวะทางจิตใจ "ปฏิจจสมุปบาท" สายหนึ่งจึงกินเวลาเพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น
พุทธทาสภิกขุได้ริเริ่มการกลับไปใช้ชีวิตของหมู่สงฆ์ตามแบบครั้งพุทธกาล ท่านได้จัดตั้ง
"สวนโมกขพลาราม" (สวนแห่งความหลุดพ้น) ขึ้นที่ตำบลพุมเรียงในปี พ.ศ. 2475
และต่อมาได้ย้ายมาที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี อันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบันท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
พุทธทาสภิกขุกล่าวอยู่เสมอว่า "พระธรรมก็คือธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือพระธรรม"
ท่านจึงสอนให้เฝ้าสังเกตความเป็นไปในธรรมชาติ พร้อมกับการปฏิบัติ "อานาปานสติ"
(สติเฝ้าดูลมหายใจ) วิธีการปฏิบัติ "อานาปานสติ" ตามแนวทางของพุทธทาสภิกขุนั้น
ขั้นแรกผู้ปฏิบัติจะเฝ้าดูลมหายใจด้วยวิธีการต่างๆ (สมถะ) ในขั้นต่อมาผู้ปฏิบัติจะใช้สมาธิที่เกิดจากการดูลมหายใจ
มาพิจารณาถึงธรรมชาติของสิ่งทั้งหลายตามที่เป็นจริง (วิปัสสนา) นอกจากนี้ผู้ปฏิบัติพึงแสวงหา
"ปัญญา" ด้วยการศึกษาหาความรู้จากพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์ต่างๆ
นอกเหนือจากการอ่านและฟังพระธรรมคำสั่งสอนจากท่านผู้รู้ และประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมที่ดี
พุทธทาสภิกขุได้ทำการเผยแผ่พุทธศาสนาและสร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ ตลอดระยะเวลากว่า
60 ปี สวนโมกขพลารามได้กลายเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่
20 งานเผยแผ่พุทธศาสนาในชุด "ธรรมโฆษณ์" ของท่านนั้น เป็นผลงานทางความคิดอันยิ่งใหญ่
เป็นงานริเริ่มสร้างสรรค์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดทางพุทธศาสนา และเป็นงานซึ่งเมื่อรวบรวมสำเร็จสมบูรณ์แล้ว
จะมีความยาวยิ่งกว่า "พระไตรปิฎก" ของพุทธศาสนาเถรวาทเสียอีก พุทธทาสภิกขุและสวนโมกขพลารามเป็นสัญลักษณ์และตัวแทนของพุทธศาสนาฝ่ายปฏิรูปของชนชั้นกลาง
กลุ่มที่เป็นนักวิชาการ นักศึกษา และปัญญาชนในสังคมไทย
ในวาระแห่งการเวียนมาบรรจบครบรอบ 100 ปีแห่งชาตกาลของพุทธทาสภิกขุในปีนี้
มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก (มพล) และองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก
(พสล) ร่วมกับหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาศาสนาเปรียบเทียบ มหาวิทยาลัยมหิดล
จะจัดให้มีการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติในหัวข้อเรื่อง "100 ปีพุทธทาสภิกขุ
: ศาสนาเพื่อการพัฒนา" ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2549 (ณ หอประชุม
พสล ในสวนเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ โทร. 0-2258-0369-73) และวันจันทร์ที่
22 พฤษภาคม 2549 (ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ โทร.0-2441-9326
ค่าลงทะเบียน 500 บาท) เวลา 08.30-17.00 น จึงใคร่ขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมการประชุมสัมมนาวิชาการในครั้งนี้
***
การประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติ
"100 ปีพุทธทาสภิกขุ : ศาสนาเพื่อการพัฒนา"
วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2549
(หอประชุม พสล ในสวนเบญจสิริ ถ.สุขุมวิท โทร.0-2258-0369-73)
08.00-9.00 ลงทะเบียน/พิธีเปิด/สารจาก UNESCO
09.00-10.00 "ธรรมิกสังคมนิยมกับพุทธเศรษฐศาสตร์" โดย ศาสตราจารย์ ดร. อภิชัย
พันธเสน
10.00-12.00 "พุทธทาสภิกขุ : มุมมองทางสังคมการเมือง" โดย พระดุษฎี เมธงฺกโร,
ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ, ดร.ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์ (ดำเนินรายการโดย
ดร.ภัทรพร สิริกาญจน)
13.00-17.00 การเสนอบทความวิชาการ
กลุ่ม A : แก่นแท้ของพุทธศาสนา
กลุ่ม B : การสนทนาระหว่างศาสนา
กลุ่ม C : พุทธศาสนากับบริโภคนิยม
กลุ่ม D : พุทธทาสภิกขุกับโลกสมัยใหม่
วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2549
(โรงแรมรอยัลซิตี้ ถ.บรมราชชนนี โทร.0-2441-9326 ค่าลงทะเบียน 500 บาท)
08.00-9.00 ลงทะเบียน/ พิธีเปิด
09.00-10.00 "พุทธเศรษฐศาสตร์กับความสุขประชาชาติ" โดย Professor Dr. Buddhadasa
Hewavitharana
10.00-12.00 "100 ปีพุทธทาสภิกขุ : โลกได้เรียนรู้อะไรจากท่าน" โดย คุณประชา
หุตานุวัตร, ดร.สุวรรณา สถาอานันท์, ดร.ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์ (ดำเนินรายการโดย
ดร.สุมนา ตังคณะสิงห์)
13.00-17.00 การเสนอบทความวิชาการ
กลุ่ม A : แก่นแท้ของพุทธศาสนา
กลุ่ม B : การสนทนาระหว่างศาสนา
กลุ่ม C : พุทธศาสนากับบริโภคนิยม
กลุ่ม D : พุทธทาสภิกขุกับโลกสมัยใหม่
1 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations
Educational, Scientific,and Cultural Organization)
---
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๔๙ ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๑๐๒๙๑. คอลัมน์หน้าต่างความจริง, หน้า ๖.
เปิดให้บริการเว็บไซต์นับตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2547